สถาปัตยกรรมเว็บแอปพลิเคชันแบบ 3 ชั้น
ส่วนที่ผู้ใช้เห็นและสามารถโต้ตอบได้
ส่วนที่ประมวลผลและจัดการข้อมูล
ระบบเก็บข้อมูลและไฟล์
Frontend ↔ Backend ↔ Storage
เครื่องมือสำหรับสร้างส่วนติดต่อผู้ใช้
HyperText Markup Language
โครงสร้างและเนื้อหาของเว็บเพจ
Cascading Style Sheets
การจัดรูปแบบและการออกแบบ
Programming Language
ความสามารถในการโต้ตอบ
JavaScript Library
สร้าง UI แบบ Component-based
Progressive Framework
Framework ที่เรียนรู้ง่าย
Utility-First CSS
CSS Framework แบบ Utility
เครื่องมือสำหรับการประมวลผลฝั่งเซิร์ฟเวอร์
ประมวลผลและตรวจสอบข้อมูล
สร้าง Interface สำหรับ Frontend
จัดการผู้ใช้และสิทธิ์การเข้าถึง
จัดการและเชื่อมต่อฐานข้อมูล
ระบบจัดเก็บข้อมูลสำหรับแอปพลิเคชันเว็บ
Lightweight Database
ฐานข้อมูลแบบฝังตัว ใช้งานง่าย เหมาะกับการพัฒนา
Advanced Relational DB
ระบบฐานข้อมูลที่รองรับข้อมูลซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูง
Popular Relational DB
ฐานข้อมูลยอดนิยม ใช้กันอย่างแพร่หลายในเว็บแอป
NoSQL Database
จัดเก็บข้อมูลในรูปแบบเอกสาร เหมาะกับข้อมูลที่ยืดหยุ่น
Cloud NoSQL Service
บริการฐานข้อมูลบนคลาวด์จาก Google
In-Memory Database
เก็บข้อมูลในหน่วยความจำ ใช้สำหรับ cache และ queue
เก็บข้อมูลที่สำคัญของระบบ
เข้าถึงและจัดการข้อมูลผ่านคำสั่ง SQL หรือ API
ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลและการสำรองข้อมูล
สามารถสำรองและกู้คืนข้อมูลได้เมื่อจำเป็น
4 ชั่วโมงเต็ม! เพื่อปูพื้นฐานสู่การเป็นนักพัฒนาเว็บด้วย Django
ใช้ winget สำหรับ Windows
ระบบควบคุมเวอร์ชันที่จำเป็นสำหรับโปรเจกต์
ภาษาหลักสำหรับการพัฒนาเว็บด้วย Django
เครื่องมือแก้ไขโค้ดที่ทันสมัยและเบา
IDE สำหรับ Python ที่สมบูรณ์แบบ
winget ต้องใช้ Windows 10 / 11 ที่อัปเดตแล้วสร้างพื้นฐานสำหรับการเริ่มต้นพัฒนาเว็บด้วย Django
สร้างโครงงาน mysite
สร้างสภาพแวดล้อมแยกสำหหรับโครงงานในโฟลเดอร์ .venv
เปิดใช้งานสำหรับการพัฒนาโครงงาน
Framework สำหรับพัฒนาเว็บด้วย Python
create django project
start django web server
requirements.txt เพื่อเก็บรายการแพ็กเกจที่ใช้myproject, homepageเริ่มต้นโปรเจกต์เว็บด้วยคำสั่งพื้นฐานของ Django
สร้างโครงงาน mysite
สร้างสภาพแวดล้อมแยกสำหหรับโครงงานในโฟลเดอร์ .venv
เปิดใช้งานสำหรับการพัฒนาโครงงาน
Framework สำหรับพัฒนาเว็บด้วย Python
create django project
start django web server
เปิดเบราว์เซอร์: http://127.0.0.1:8000
manage.py – ตัวสั่งการหลักของโปรเจกต์mysite/settings.py – การตั้งค่าโปรเจกต์mysite/urls.py – เส้นทาง URL ทั้งระบบwsgi.py / asgi.py – จุดเริ่มต้นเซิร์ฟเวอร์ (สำหรับ deployment)__init__.py – บอกว่าเป็น Python packagemysite, myprojectเริ่มเขียนเว็บด้วย Django App แรกของคุณ
ใช้คำสั่ง startapp เพื่อสร้างแอปใหม่
settings.pyเพิ่มชื่อแอปใน INSTALLED_APPS
INSTALLED_APPS = [
...
'blog',
]
views.pyเขียนฟังก์ชันแสดงข้อความพื้นฐาน
from django.http import HttpResponse
def home(request):
return HttpResponse("สวัสดี Django!")
urls.pyเชื่อม URL กับ View ที่สร้างไว้
from django.urls import path
from . import views
urlpatterns = [
path('', views.home, name='home'),
]
จากนั้นเพิ่มในไฟล์ mysite/urls.py:
from django.urls import include, path
urlpatterns = [
path('', include('blog.urls')),
]
urls.py ในแต่ละแอปช่วยให้ง่ายต่อการจัดการสร้างแอปชื่อ book และแสดงข้อความบนหน้าเว็บ
book โดยใช้คำสั่ง:
python manage.py startapp book
'book' ลงใน INSTALLED_APPS ในไฟล์ settings.pyindex ใน book/views.py โดยให้แสดงข้อความ "ยินดีต้อนรับสู่ Book App!"urls.py ในโฟลเดอร์แอป book และเพิ่ม URL pattern สำหรับฟังก์ชัน indexbook.urls ในไฟล์หลัก mysite/urls.py ให้ URL หลักเรียกไปยังแอป bookbook ใน INSTALLED_APPS แล้วpython manage.py runserver เพื่อรันเซิร์ฟเวอร์สร้างแอปชื่อ product และแสดงรายการสินค้า
product โดยใช้คำสั่ง:
python manage.py startapp product
'product' ลงใน INSTALLED_APPS ในไฟล์ settings.pyproduct_list ใน product/views.py เพื่อดึงข้อมูลสินค้าและส่งไปยังเทมเพลตproduct/templates/product/product_list.htmlproduct_list ในไฟล์ product/urls.py และเชื่อมต่อใน mysite/urls.pyproduct ใน INSTALLED_APPS แล้ว